วันอังคารที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2554
ปฐมบทแห่งสันติภาพ EPISODE 2
6 เดือน หลังจากข่าวการเสียชีวิตของมนุษย์คนสุดท้ายบนโลกได้แพร่กระจายไป เหล่าสัตว์ป่าทั้งหลายที่เคยแฝงเร้นอยู่ภายใต้เงามืดของมนุษย์ต่างก็ออกมาท วงคืนกรรมสิทธิ์ในการใช้ชีวิต กองซากกระดูกของมนุษย์ถูกนำมารวมไว้ที่ขั้วโลกเหนือ มันเป็นอนุสรณ์สถานเพื่อให้สัตวชาติรำลึกถึงความโหดร้ายของโลกใบนี้ในอดีต
โครงการฟิ้นฟูและพัฒนาโลก ถูกกำหนดให้เป็นแผนแม่แบบแรกในการเริ่มตัวศักราชใหม่ของสัตวชาติ อารยธรรมต่างๆที่มนุษย์ได้สร้างไว้ ถูกนำมาใช้ให้เป็นประโยชน์ในโครงการนี้ ป่าไม้เขียวขจีเริ่มรุกคืบเข้าปกคลุมป่าคอนกรีต อุณหภูมิโลกเริ่มลดลง สภาพน้ำทั้งในแม่น้ำลำคลองและมหาสมุทรเริ่มใสสะอาดขึ้น ทุกสรรสิ่งบนโลกในศักราชใหม่ปกติในแบบที่ควรเป็น
ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมาล้วนเกิดขึ้นภายใต้การนำของ พณฯท่าน ปุ่น ปลาสวายผู้นำเกิดหายนะแก่มวลมนุษยชาติ..
ย้อนกลับไปเมื่อคราวที่เจ้าปุ่นถูกยุงลายยายฉินกัด ด้วยพิษของไข้หวัดปลาทำให้เจ้าปุ่นนอนซมจนเกือบตาย แต่พิษจากปากยายฉินกลับทำให้มันมีอาการน็อคน้ำ จนทุกคนคิดว่าเจ้าปุ่นเสียชีวิตไปแล้ว แต่จากพิษไข้เลือดออกของยุงลายรวมกับพิษไข้หวัดปลาทำให้เจ้าปุ่นกลายเป็นปลา อัจฉริยะ
ข่าวการฟื้นคืนชีพของเจ้าปุ่น ดังไปทั่วลุ่มน้ำท่าจีนไปจดถึงลุ่มเจ้าพระยาและอ่าวไทย ทำให้เจ้าปุ่นเป็นตัวแทนทางจิตวิญญาณของสรรพสัตว์ทั้งหลาย และภายใต้การผลักดันของหมวดดุก ตำรวจเกษียณราชการ สน.บาดาลสามชุก ทำให้ชื่อเสียงเจ้าปุ่นขจรขจายไปทั่วทวีปเอเชียในเวลาไม่นาน
"เอ็งต้องเป็นผู้นำของสัตว์ทุกตัวบนโลกนี้" คำที่หมวดดุกพร่ำย้ำกับเจ้าปุ่น
แผนการฟื้นฟูโลกใหม่จากลุ่มน้ำท่าจีน เริ่มต้นด้วยโครงการฝึกสัตว์เพื่อใช้งานทุกอารยะที่มนุษย์สร้างไว้ เจ้าปุ่นได้ความอัจฉริยะที่ได้มาโดยบังเอิญนั่นเปิดเป็นศูนย์อบรมเชิง วิชาการ จากกลุ่มเล็กๆจำนวนไม่กี่ร้อยตัว จนเพิ่มเป็นนับแสนในหลายสิบประเทศทั่วโลก
ความเจริญทางด้านเทคโนโลยีอย่างก้าวกระโดดครั้งนี้ ทำให้วิวัฒนาการของสัตว์ทุกชนิดเปลี่ยนไปจนเกือบจะเป็นมนุษย์ ยกเว้นวิวัฒนาการของความเป็นนักล่า และ กิเลสตัญหา
"ชั้นเหนื่อยมากเลย หมวดดุก" เจ้าปุ่นเปรย
"เอ็งจะไม่ต้องเหนื่อยอีกแล้ว" หมวดดุก ว่า "ตลอด 6 เดือนที่ผ่านมา เอ็งทำให้โลกนี้น่าอยู่ขึ้น"
"พอได้แล้วล่ะปุ่น เจ้าเหนื่อนมามากแล้ว" นางยงค์ใช้ครีบประคองหัวลูกชายเข้ามากอด
"แต่ในฐานะที่เอ็งเป็นผู้นำทางจิตวิญญาณ ข้าว่าเอ็งควรขึ้นเป็นผู้นำสูงสุดของโลก" หมวดดุกกล่าวอย่างขึงขัง
พิธีสถาปนาเจ้าปุ่น เป็นผู้นำสูงสุดของโลกเกิดขึ้นในอีก 7 วันต่อมา
ในป่ารกชัฎแถบจังหวัดกาญจนบุรี
ขณะที่ฝูงสัตว์ได้ออกจากป่าลึกไปใช้ชีวิตในเมือง ไอ้ควน เด็กหนุ่มวัยรุ่น ที่ดูเหมือนจะเป็นมนุษย์เพียงคนเดียวที่รอดพ้นจากหายนะครั้งใหญ่ได้
สัญชาตญาณของนักล่าทำให้เด็กหนุ่มที่อายุเพียง 16 ปี จำต้องหาทางเอาตัวรอด โดยประทังชีวิตด้วยพืชผักและแมลงซึ่งเป็นสัตว์เพียงชนิดเดียว ที่ไม่มีการสื่อสารกับสัตว์ชนิดอื่น
"โลกมันเกิดอะไรขึ้น แล้วทำไมถึงไม่มีเจ้าหน้าที่มาช่วยชั้นออกจากป่านี้" ไอ้ควนรำพัน พลางน้ำตาไหล นึกสังเวชในชะตากรรมที่ต้องประสบ
"ถ้าวันนั้นชั้นไม่เข้ามาหาของป่า ชั้นคงไม่ต้องเป็นแบบนี้" ไอ้ควนยกมือปาดน้ำตา "
"เจ้าป่าเจ้าเขาโปรดข่วยลูกช้างด้วย" ไอ้ควนพนมมือท่วมหัว บนบานศาลกล่าวต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในป่า โดยไม่รู้ว่าโลกภายนอกนั้นเป็นอย่างไร
5 ปีต่อมา โลกที่ไร้ซึ่งมนุษย์ ได้รับการชำระล้างให้บริสุทธิ์อีกครั้งหนึ่ง ผืนป่าเขียวขจี ผืนน้ำใสที่สะท้อนภาพท้องฟ้าสีคราม ความโอบอ้อมอารีในหมู่มวลสรรพสัตว์ ภายใต้การปกครองพณฯ ท่านปุ่น ผู้นำสูงสุดของโลก สัตวชาติได้อยู่รวมกันอย่างร่มเย็นเป็นสุข
..................ภายใต้ความสุข ยังมีสายตาที่จ้องกระหายอยู่ในม่านเมฆอันมืดมิด.................
จุลชีพ โจ๋
๒๖ กันยายน พ.ศ. ๒๕๕๔
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น