วันพฤหัสบดีที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

หนังไม่สั้น



      หลายเดือนมาแล้ว ที่บุญยังนั่งอยู่หน้าคอมเพื่อสร้างหนังโดยใช้คอมพิวเตอร์กราฟฟิกเพียงคน เดียว เขาตั้งใจกับผลงานที่จะนำเสนอต่อสายตาชาวโลก ถึงมหัตภัยที่ทำลายล้างโลกในปี ค.ศ. 2012

      ประสบการณ์กว่าสิบปีที่บุญยังได้มีส่วนร่วมกับค่ายหนังยักษ์ใหญ่ในฮอลลีวูด ได้สั่งสมเพาะบ่มจิตนาการในการสร้างหนังสุดอลังการเรื่องนี้



      จากเด็กเข็นดอลลี่ ความสามารถในการจดจำบวกกับความคิดสร้างสรรค์และความใฝ่รู้ในงานกราฟฟิก ทำให้ได้เข้าไปมีส่วนในการทำหนังอนิเมชั่นชั้นดีหลายๆเรื่องที่ผ่านตาพวกเรา เทคนิคในงานกราฟฟิกใหม่ๆจากตอนนั้น ทั้งหมดได้ถูกถ่ายทอดลงในผลงานหนังเรื่องนี้ของบุญยัง

      นับตั้งแต่บทภาพยนตร์ที่เขาแต่งขึ้นนั้นมันใหม่มาก ใหม่ทั้งพล็อตเรื่อง ใหม่ทั้งวิธีการเดินเรื่องของตัวละคร แม้ว่าตอนจบของเรื่องจะเป็นหายนะเหมือนกับหนังหลายๆเรื่องที่ผ่านมา

      แรกเริ่มเดิมที บุญยังตั้งใจจะนำบทภาพยนตร์เรื่องนี้ไปเสนอค่ายหนังในไทย เพื่ออยากให้ชาวโลกได้ทึ่งในหนังที่สร้างโดยคนไทยที่เขาคิดว่าไม่แพ้ฮอลลี วูด แต่ก็ไม่มีค่ายไหนรับบทภาพยนตร์ของเขาไว้พิจารณา ด้วยเหตุผลที่ว่า "หนังไทยที่ใช้สเปเชียลเอฟเฟกต์และคอมพิวเตอร์กราฟฟิก ไม่่ค่อยได้รับการยอมรับจากต่างประเทศ"

      "กูทำเองคนเดียวก็ได้วะ" บุญยังตัดใจหลังจากใช้เวลานับเดือนในการนำเสนอบทภาพยนตร์แก่ค่ายหนังทุกค่าย ในเมืองไทยแต่ไม่มีใครตอบรับ

      บุญยังทุ่มเทเวลาสร้างสตอรี่บอร์ด และแก้ไขมันจนเป็นที่พอใจก่อนลงมือสร้างจริง ตัวละครทุกตัวที่ปรากฏ เกิดจากจินตนาการของเขาล้วนๆ คาแร็กเตอร์ของตัวละครทุกตัว มันเกิดได้ด้วยปลายนิ้วของเขาที่สัมผัสแป้นพิมพ์ สีผิว ริ้วรอยเหี่ยวย่นบนร่างกาย อีกทั้งอากัปกิริยาท่าทาง มันเหมือนคนจริงๆแบบที่ถ้าไม่บอกก็ไม่รู้ว่าทุกสิ่งล้วนเกิดจากคอมพิวเตอร์ มีบางครั้งที่เขานึกขำตัวเองที่แสดงท่าทางประหลาดๆหน้ากระจกเพื่อนำท่าทาง แบบนั้นเป็นตัวอย่างในการสร้างคนเสมือนจริงในหนังของเขา

      ฉากส่วนใหญ่ เขาใช้ประเทศไทยเป็นแบ็คกราวด์ บ้านเรือนหรือตึกระฟ้า สภาพความเป็นอยู่ในแต่ละฉาก บุญยังได้สอดแทรกศิลปะวัฒนธรรมและการใช้ชีวิตของไทย ให้ประจักษ์แก่สายตาชาวโลก

      ฉากระเบิดก็ระเบิดอย่างสมเหตุสมผลและสมจริงจนเหมือนเราเข้าไปอยู่ใน เหตุการณ์นั้นจริงๆ มันเป็นจุดที่บุญยังใส่ใจมากเป็นพิเศษ เขาอยากให้ผู้ชมระทึกไปกับวาระสุดท้ายของโลก

      เทคโนโลยี 3D ที่เป็นที่นิยมของหนังสมัยนี้ บุญยังจัดเต็มตั้งแต่วินาทีแรกจนจบ มันจะเป็นหนังเรื่องแรกที่ผู้ชมจะชมหนังสามมิติโดยไม่ต้องใส่แว่นสามมิติ เขาภูมิใจกับเทคโนโลยีใหม่นี้มาก ผู้ชมในโรงภาพยนตร์จะต้องตื่นตากับฉากที่โลกกำลังล่มสลายในตอนจบของเรื่อง ภาพตัวเอกของเรื่องที่ยืนมองภาพสุดท้ายของโลก จะสามารถสะกดให้ผู้ชมย้อนกลับไปเริ่มคิดที่จะรักษาโลกใบนี้

      ในช่วงเวลาที่บุญยังสร้างสรรค์ผลงานชิ้นนี้ เขาตัดขาดจากโลกภายนอก ไม่คุยกับเพื่อนฝูง ไม่รับรู้ในทุกๆสื่อ ไม่ดูโทรทัศน์หรือฟังวิทยุ จะออกไปข้างนอกน้อยครั้งมาก โดยส่วนใหญ่เขาจะสั่งอาหารและเครื่องดื่มเข้ามากินที่บ้านคนเดียว

      "พรุ่งนี้แล้วสินะ หนังของเราจะได้ทำให้ทุกคนต้องตะลึง"

      คืนนี้บุุญยังคงนอนหลับอย่างมีความสุข หลังจากหนังตัวอย่างได้เผยแพร่ออกไป เสียงตอบรับที่ได้มันมากมายอย่างไม่น่าเชื่อ ถึงตอนนี้บุญยังหมดห่วงกับหนังเรื่องนี้ สิ่งที่เขาทุ่มเท ทุกหยาดเหงื่อของเขากำลังจะได้รับการตอบแทน ทุกๆเซลล์ของบุญยังค่อยๆพักผ่อนอย่างมีความสุข

      12 ธันวาคม ค.ศ. 2012  12 นาฬิกา 12 นาที งานรอบปฐมทัศน์ของภาพยนตร์เรื่อง " The World " กำลังจะเริ่มขึ้น แขกผู้มีเกียรติและสื่อมวลชนนั่งเต็มทุกที่นั่งในโรงภาพยนตร์ บุญยังขอทำหน้าที่เป็นผู้ฉายหนังเรื่องนี้เอง เขาอยากให้ทุกคนรู้ว่าหนังเรื่องนี้เกิดจากตัวเขาเพียงคนเดียว มันคงจะดีไม่น้อยถ้าเมื่อหนังจบ ไฟทุกดวงจะส่องมายังตัวเขาที่ยืนอยู่บนห้องฉาย

      ถึงเวลา บุญยังบรรจงใส่ฟิล์มลงในเครื่องฉาย เพลงสรรเสริญพระบารมีดังขึ้น ทุกคนลุกขึ้นยืนทำความเคารพ บุญยังน้ำตาไหลพราก เขายินดีที่เกิดเป็นคนไทยและได้ฉายหนังเรื่องนี้บนแผ่นดินไทย

      หนังเปิดตัวได้อย่างน่าตื่นตาตื่นใจมาก การดำเนินเรื่องเป็นไปอย่างเร้าใจ ในบางช่วงอารมณ์เศร้าก็เรียกน้ำตาผู้ชมได้พอสมควร

      บุญยังนั่งหลับตา เขาจำทุกฉากทุกตอนของหนังเรื่องนี้ได้ทั้งหมด แม้แต่บทพูดของตัวละครทุกตัว เขาก็สามารถพูดประสานพร้อมกับเสียงในหนังได้  บุญยังนั่งหลับตาฟังเสียงหนังของเขาไปเรื่อยๆ ในใจก็พลางนึกไปถึงสีหน้าของผู้ชม เขาหวังว่าตลอดเวลา 2 ชั่วโมง ผู้ชมจะได้รับอรรถรสของหนังอย่างครบถ้วนโดยไม่รู้เบื่อ

      เสียงระเบิดตูมตามในหนังนั้นมันช่างได้อารมณ์ของการทำลายล้าง บุญยังนึกชื่นชมคุณภาพของระบบเสียงของโรงภาพยนตร์แห่งนี้ ทุกเสียงระเบิดเขาสัมผัสได้ถึงแรงสั่นสะเทือน บุญยังคิดว่าผู้ชมคงรู้สึกได้เช่นเดียวกับเขา

      ใกล้ถึงตอนจบของเรื่อง บุญยังยังคงนั่งหลับตาชมหนังของเขา ในช่วงท้ายนี้เป็นช่วงที่นางเอกสารภาพความรู้สึกที่มีต่อพ่อของเธอ หลังจากที่เข้าใจผิดที่เธอคิดว่าพ่อทิ้งเธอไปนานถึง 8 ปี

      ภาพของสองพ่อลูกกุมมือกันยืนดูวาระสุดท้ายของโลกบนยอดตึกใบหยก บุญยังเดาอารมณ์ของผู้ชมได้เลยว่า ต่อให้ผู้ชายก็คงต้องหลั่งน้ำตาให้กับฉากนี้ไม่มากก็น้อย ถึงแม้ว่าทุกอย่างในหนังจะสร้างโดยคอมพิวเตอร์กราฟฟิก

      ภาพในจอดับไป บุญยังลุกขึ้นแล้วเดินไปที่หน้าเครื่องฉายเพื่อรอแสงไฟทุกดวงที่จะสาดส่องมายัง ตัวเขา มันเป็นการจบพิธีเปิดตัวหนังของเขาอย่างสมบูรณ์แบบ

      แต่ทว่า ไม่มีแสงหรือเสียงใดๆ เขานึกแปลกใจยืนงงอยู่พักใหญ่ บุญยังมองลงไปข้างล่างฝ่าความมืด ไม่มีสิ่งใดเคลื่อนไหวให้เห็น

      "เฮ้ย!! คนดูหายไปไหนกันหมด" บุญยังรีบวิ่งออกไปหน้าโรงหนังทันที

      ภาพที่ปรากฏเบื้องหน้าเขา มันเป็นทะเลเพลิงที่กำลังโหมไหม้ ควันดำลอยฟุ้งไปทั่วบริเวณ ตึกรามร้านรวงพังจนมองไม่เห็นเป็นสภาพเมืองหลวง ขณะที่สะเก็ดดาวตกและอุกกาบาตขนาดใหญ่กำลังพุ่งทำลายอย่างต่อเนื่อง

      มันเหมือนเป็นภาพเดียวกับวาระสุดท้ายของโลกในหนังของบุญยังเสียยิ่งกระไร


จุลชีพ   โจ๋

๒๔ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๔

3 ความคิดเห็น:

  1. สมชื่อเรื่องเลยนะค่ะ ไม่สั้นจริงๆค่ะ งานนี้คงได้ยาวแน่ หุหุหุ
    .........อัสดง

    ตอบลบ
  2. หากเปลี่ยนมุมมองเป็นเล่าจากปากบุญยังล่ะขะรับ?

    ของฝาก :
    นอนหลับอย่ามีความสุข
    เป็นผู้ฉายหนึ่งเรื่องเอง
    ฟิล์ม (ไม่แน่ใจคำนี้น่าจะสระอี)
    น้ำตาไหลพลาก
    เฮ๊ย (แน่ใจ ฮ.นกฮูกใช้ไม้โท)

    ตอบลบ