วันศุกร์ที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2554

สู่สามัญ ด้วยสามัญสำนึก




         ..จริงๆแล้วทุกสิ่งสามารถอยู่ได้ด้วยสมดุลของวัฏจักรของการดำรงชีวิตใน รูปแบบของสสารที่ซึ่งมีการทำหน้าที่ของตัวเองแตกต่างกันไป จนกระทั้งมีสิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่งซึ่งแหกกฏของวัฏจักรออกมาแล้วเรียกตัวเอง ว่ามนุษย์


             ว่ากันว่า มนุษย์เป็นผู้ทำลายโลก นั่นก็เพราะมนุษย์มีสิ่งที่เรียกว่าสามัญสำนึกในรูปแบบของปัญญา ซึ่งสิ่งนี้เองที่นำมาซึ่งความเห็นแก่ตัวของสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่ามนุษย์ การแหกกฏของวัฏจักรการดำรงค์อยู่ของโลกนั้นได้เกิดขึ้นอย่างนับตั้งแต่ มนุษย์เริ่มมีสามัญสำนึก และก็วิวัฒนาการมาเรื่อยๆอย่างชัาๆ การที่มนุษย์ลืมไปว่าตัวตนที่มีอยู่ของตนเองนั้นมันเป็นเพียงแค่สสารส่วน หนึ่งบนโลกทำให้สสารอย่างอื่นที่ทำหน้าที่ในการดำรงค์ชีวิตบนโลกเริ่มหายไป ที่ละน้อยๆ

             การที่มนุษย์เอาชนะสสารอื่นๆทุกอย่างบนโลกได้ทำให้มนุษย์ยิ่งได้ใจใน พัฒนาการของตัวเองในรูปแบบของความเห็นแก่ตัวและยิ่งมากขึ้นๆเรื่อยๆในฐานะ ของผู้ล่า..และล่าเพื่อสนองตัญหา

             เมื่อเป็นแบบนี้แล้วเราจะโทษตัวเองได้หรือไม่ว่าพิบัติภัยธรรมชาติต่างๆที่ เกิดขึ้นบนโลกใบนี้เกิดจากฝีมือของมนุษย์ทั้งสิ้นการที่เราซึ่งเป็นมนุษย์จะ รักษาสมดุลต่างๆบนโลกใบนี้ให้กลับเป็นเหมือนเดิมนั้นคงเป็นไปได้ยากเนื่อง จากการทำร้ายโลกได้เริ่มกันมานานมากแล้ว แต่อย่างน้อยเราก็ควรคิดว่าการเยียวยาโลกใบนี้ควรเริ่มขึ้นได้แล้ว มันอาจแค่ยืดระยะเวลาอายุขัยที่โลกจะหมดไปซึ่งวัฏจักรที่ควรเป็น แต่มนุษย์จะรักษาสภาพความเป็นมนุษย์อยู่บนโลกได้ก็แค่เพียงด้วยการลดความ เห็นแก่ตัว

             การคิดเพียงว่าตัวตนเป็นเพียงสสาร พยายามเข้าใจวงจรการดำรงค์ชีวิตบนโลก ทำหน้าที่อย่างที่ควรทำในวัฏจักรการดำรงชีวิต และควรเติมสิ่งที่มนุษย์ได้ทำลายไป ด้วยกำลังคน6พันล้านคนบนโลกที่ร่วมใจกัน เพียงเท่านี้โลกก็จะยังคงอยู่ได้อีกนานแสนนาน...

             ***เพียงแต่ว่า...วันนั้น วันที่โลกกลับมามีชีวิตดังเดิม จะมาถึงเมื่อไร***

             ...เรื่องราวประเภทนี้ สามารถศึกษาได้จากธรรมชาติที่อยู่รอบๆตัวเรา จำไว้ว่าเวลาที่เราจะทำให้ทุกอย่างมันดีได้นั้นได้หมดลงไปทุกวินาทีที่เรามี ชีวิตอยู่....

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น