วันพฤหัสบดีที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2554

~นิพพานสามบท~




๑)..

      อันคน นั้นมากล้วน
แลอบอวล ด้วยปัญหา
หวังมี ที่เงินตรา
เร่งแสวงมา จนลืมใจ



      ที่ได้ ก็เสาะสุข
อ้างปลดทุกข์ ที่ทำไว้
แสงสี เย้ายวนให้
ชวนหลงไหล ระติกาล

      ผลาญไป ใช่เพียงเงิน
ลืมส่วนเกิน คือสังขาร
ลอยต่ำ แทบเคียงคลาน
เคล้าผสาน ซ่านสุขใจ

      ก่อนเคย ทางก้าวมา
ทิศใดหนา เจ้ารู้ไหม
ติดตัว มีสิ่งใด
สลัดได้ คือ..นิพพาน.


๒)..

      อันคนเรามากล้วน...........เฝ้าเพียร
คล่ำเคร่งจนปวดเศียร............ไขว่คว้า
ได้มาใช่สุขเนียน...................ทั้งหมด นั้นแล
กิเลสผุดโหมแรงกล้า..............ก่อขึ้น ในใจ

      ลืมไปว่าเกิดด้วย.............อย่างร้าง
กาลก่อนสิ่งใดวาง.................แนบให้
ระลึกล่องคิดพลาง.................จงปล่อย ลงเฮย
สงบหยุดสิ่งเร้าไว้...................จักได้ นิพพาน.


๓)..

      อันคนเรา เคล้าวน เปปนจิต
ต่างก็คิด ติดกาย ด้วยหมายใฝ่
สร้างฐานะ ชะตา ต้องพาไป
เร่งคว้าไขว่ ในมือ ก็คือทรัพย์

      เมื่อได้มา หาเติม ที่เริ่มขาด
สุขที่วาด ดาษดา ก็หาจับ
ระยิบตา พาหวิว ระลิวลับ
สิ่งที่ยับ ทับใจ ไม่คิดจำ

      แต่กาลก่อน ย้อนมา ก็หาใช่
มีอะไร ให้เจ้า ได้เฝ้าพร่ำ
อัตตาถือ คือข้า ให้มานำ
ลืมที่ทำ ซ้ำสุข เป็นทุกข์ปน

      ละลงบ้าง วางไว้ มิให้หนัก
ลองหยุดพัก สักครู่ แล้วดูผล
ผันความคิด จิตว่าง ปล่อยวางตน
จักได้ยล กมลทิพย์ คือ นิพพาน.


นิพพาน จักพบได้เมื่อใจว่าง และ กายว่าง..ไม่ต้องรอให้สิ้นลม



จุลชีพ โจ๋

๑๐ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๔

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น