วันพฤหัสบดีที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2554

~การเดินทางของเงาดาว~

เงาแรมยามหญ้าไหว



     ท่ามทุ่งร้างลมร้อนที่อ่อนล้า
วาบไหวมาตามดาวที่พราวแสง
แหงนเงยมองใบหญ้าคืนแรมแรง
กระจ่างแจ้งฟ้าจางที่ร้างจันทร์



      มองรอบกายรายทางรางลึกลับ
ความมืดขับดาวเด่นเช่นดั่งฝัน
สดับเสียงเรียงถ้อยร้อยจำนรรจ์
ผูกโยงปันอันความตามน้ำมา

      ริ้วที่จิตคิดถึงคะนึงโหย
ฤๅร่วงโรยร้างลงที่ตรงหน้า
ฝากไปไกลในสายธารธารา
โปรดเมตตาพาไปให้ถึงเธอ

     เย็นแผ่วพลิ้วลิ่วหรือคือลมรัก
ที่คอยดักทักทายให้คลายเพ้อ
ใบหญ้าไหวหวิวรับขยับเก้อ
ขวัญนะเออเผลอใจไม่ลืมจำ

      อุ่นไอดินกลิ่นนี้มีความหมาย
ชวนผ่อนคลายกายผ่าวในราวค่ำ
คืนมืดมิดราตรีนี้สีดำ
มาช่วยย้ำความคิดที่ริดรอน

      มองอีกคราพิจารณาใบหญ้าไหว
สะกิดใจทิศแถแม้ลมผ่อน
ไม่เคยซ้ำย้ำตรึกให้นึกย้อน
ใบหญ้าคลอนครวญสลับกลับที่เดิม

      โอ้ใจข้าหาไยไม่จำจด
ซึ่งปรากฏผ่านทางที่รางเพิ่ม
วะวาบไหวไปตามความที่เดิม
ยังมิเริ่มเสริมสร้างทางที่ไป

      ขยับฝืนยืนหยัดสะบัดข้อ
ก้าวเดินต่อตามแรงแห่งฝันใส
อาทิตน์แรกแยกแรมแซมอำไพ
มุ่งก้าวไปให้ถึงซึ่งดาวดึงส์


จุลชีพ   โจ๋

๒๒ กันยายน พ.ศ. ๒๕๕๔

1 ความคิดเห็น:

  1. จุล (ชีวัน) ชีพ ตัวน้อย "แหงนเงยมองใบหญ้าคืนแรมแรง กระจ่างแจ้งฟ้าจางที่ร้างจันทร์" คืนเดือนแรมกระจ่างแจ้งแสงดาว พราวระยิบระยับประดับฟ้า เห็นจุลชีพ โจ๋ ตัวนิดเดียวอยู่บนพื้น กำลังแหงนมองใบหญ้า (ต้นไม้ใหญ่ของจุลชีพ) อิอิอิ

    ตอบลบ