วันอังคารที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2554

~แว่วเสียงภูผา~




อดีตกาลนานสมัย
ทวยไท้อยู่ยั้งสงบ ร่มปกพระภูมินทร์
เสียงกระซิบกริบเงียบเรือนในยังได้ยิน
ดังก้องถิ่นเทวาเทพารักษ์

เด็กตัวน้อยเทียวเล่นฉ่ำเย็นน้ำ
มิคร้ามแม่คงคา โอบล้อมกายดั่งเรือนสัก
สนุกสนานรานตาพร่างแสงระยิบนัก
เกล็ดแดดชักสะท้อนผิวน้ำยามอรุณ

บิดาผันกายยืนยิ้มที่ปลายนา
โบกมือ ชูข้องปลา สองมืออุ่น
เดินลุยคูน้ำ..รายทางกระปุ้น
ผลุบผลุนกระโจนขึ้นครัวติดไฟ

อาหารมีไม่ขาดเรือน..
ข้าวสารเกลื่อนขายเสร็จเก็บไว้
หนึ่งกองข้าวเปลือกกองใหญ่
พันธุ์ข้าวเอาไปใช้ต่อคำ

สุขสันต์ทวีปรีดิ์เปรม
ครอบครัวสุขเกษม แต่เช้าจรดค่ำ
แดดร้อน ลมฝน หนาวไม่เคยกระทำ
จนช้ำจนชอก..ไม่หลอกกัน

ผันผ่านนานเนิ่นจวบปัจจุบันสมัย
แดดแล้งระอุไอไม่เหมือนฝัน
ร้าวไปทั่วถิ่นร้อนระแหงเป็นแยกอัน
ร่องลึกมองไม่เห็นแม้ตาน้ำ

ก่อนกาลวิบัติฤดู
ภูเขากู่ก้องร้องดังไปทั่วเสียงระส่ำ
ตระหนกตื่นไม้ล้มทั้งยืนฝืนใจจำ
ภาพอุบาทว์จากน้ำมือมนุษย์

เขียวขจีบัดนี้เปลี่ยน
หวนเวียนคืนก่อนตอนแรกสุด
เกลี้ยงตอไม้หมายค้ากำไรรุด
ที่ผุดขึ้นคือเมืองใหญ่

หมดสิ้นแล้วรากยึด
ยื้อยุดฉุดรั้งดินโคลนไหล
หยดจากฟ้าพาสายนทีลิ่วล่องไป
พร้อมดินโคลนทำลายล้าง

น้ำมาครานี้ชอกช้ำ
ผู้รับกรรมจากใครไม่รู้สร้าง
อยู่ด้วยจำนนบนผืนดินที่รกร้าง
เวิ้งว้างจมลงใต้นที

ขอคราวนี้ครั้งสุดท้าย
ขอโปรดเข้าใจความหมายนี้
จากภูผาแผดก้องปฐพี
ต่อจากนี้"ข้าจะไม่อภัย"


จุลชีพ   โจ๋

๖ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๔

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น