กวี...กะวาดฝันปันอักษร
ผ่านบทกลอนอ่อนไหวตามไรแสง
ริบหรี่ริ้วพลิ้วแผ่วยามลมแรง
ท้าสำแดงแผลงศรขจรนาม
อารัมภบทจดเล่าจากเหง้าจิต
สื่อความคิดที่ริดใจในโลกสาม
สะกดมนต์ปนสุขแม้เศร้ายาม
ส่องความงามตามทำนองผ่องอำพัน
สะกิดเกาแกะเปลือกกายมนุษย์
ไม่เคยหยุดผุดคำลำนำฝัน
ลอยลำน้ำย้ำเตือนดั่งเขื่อนคัน
ชลประทานผันผ่านลานอักษร
หยิบเรื่องราวคราวพบประสบเพ้อ
คล้ายละเมอเจอแสงสะดุ้งร้อน
พรั่งพรูคำรำร่ายในบทกลอน
ไม่เคยผ่อนพักจำแม้ยามเดียว
อารมณ์ไหวไร้ซึ่งกิเลสสร้าง
ถึงอ้างว้างเดินไปในทางเปลี่ยว
จะกอบเก็บประสบการณ์ผ่านคำเคียว
กระหวัดเกี่ยวกำไว้ไม่วางมือ
บางคนว่าบ้าบอไม่ขอค้าน
จะสืบสานลานใสอย่าได้ถือ
จรดหมึกลงดินให้ถิ่นลือ
เพราะท่านคือสื่อส่งให้ข้าฯยัง
จุลชีพ โจ๋
๖ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๔
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น