คราที่ลมพาพัดซัดกลิ่นโศก
คราววิโยกโหยไห้สะบัดพลิ้ว
ใบไม้ร่วงรายล้อมลมเป่าปลิว
ลอยละลิ่วดิ่งร่วงสู่ห้วงดำ
คว้ามือจับกำได้เพียงอากาศ
กระวีวาดแหวกว่ายในหมอกคล้ำ
พลิกเปิดดูจึงรู้ว่าเป็นกรรม
กระหน่ำซ้ำย้ำตอกบอกฝากมา
ตะแคงหลบไม่พบขอนไม้หลัก
หวนตระหนักพักไว้ที่ใฝ่หา
สะกดนิ่งนั่งนับแล้วหลับตา
อนิจจาชะตาไม่จีรัง
ที่ว่างเปล่าเทาทาบทั่วท้องฟ้า
แต้มขาวทาพร่าพรางกิเลสขัง
เถ้าถ่านฟุ้งปากเป่าสู่ปลายยัง
กลบตอซังฝังกายชายเชิงตะกอน
ก้าวเดินออกนอกทางอันร้างรก
สกปรกตกผลึกให้นึกย้อน
ค่อยค่อยต่อสืบสานอย่ารานรอน
คำท่านฯสอนวอนจำ..ที่กรรมดี
จุลชีพ โจ๋
๖ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๔

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น