วันพุธที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2554

เพลงฮิต




        ตึ่ก โป๊ะ ตึ่กตึ่ก โป๊ะ ตึ่ก..แต๊นน แต๊นน.....

        เสียงอินโทร กลอง กีตาร์ เบสอันเร้าใจของเพลงร็อคดังกระหึ่มจากห้องนอนพี่สงบขาร็อครุ่นใหญ่ ที่แกเปิดฟังทุกเช้าก่อนออกไปทำงาน ถึงคราวคอนเสิร์ตวงร็อคแทบทุกวง ที่มาเล่นตามงานบุญหรืองานวัดแถวบ้าน จะมีพี่สงบแกยืนโยกหัวอยู่หน้าเวทีเสมอ


        ป้าบุญ หญิงชราอารมณ์ดีแม่ของพี่สงบ แกจะชอบโยกหัวตามจังหวะเพลงที่พี่สงบเปิดดังลั่นบ้าน ไม่ว่าจะทำกับข้าวหรือทำงานบ้าน เวลาที่พี่สงบอยู่บ้าน ชาวบ้านใกล้เคียงจะเห็นป้าบุญเดินไปมาอยู่ในบ้านอย่างอารมณ์ดี กับเพลงร็อคที่พี่สงบเปิด

        สถานะการเงินของพี่สงบ ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ปานกลาง อาชีพผู้คุมงานก่อสร้าง แน่ล่ะมันไม่ทำให้แกรวยแต่มันก็ไม่ถึงกับจน พี่สงบแกเป็นคนไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่ เงินเดือนส่วนที่เหลือจากค่าเช่าบ้าน แกก็จะแบ่งให้ป้าบุญไว้ใช้จ่ายในบ้าน แต่แกก็ไม่ลืมเจียดเงินบางส่วนไว้สำหรับค่า ซีดีเพลงร็อคที่แกชื่นชอบ

         ชั้นไม้ที่ทำจากวัสดุเหลือใช้ติดอยู่รอบห้องนอน พี่สงบจะจัดระเบียบแผ่นเพลงทั้งซีดี,เทป ทั้งไทยและเทศ แกจะจัดหมวดหมู่ไว้เป็นอย่างดี ใครมาหยิบยืมหรือเอาไปเปิดฟัง แกจะรู้ได้ทันที มีบ่อยครั้ง เวลาแกไปคุมงานต่างจังหวัด ป้าบุญจะแอบหยิบมาเปิดฟังแก้เหงา แต่ป้าบุญก็ไม่รู้หรอกว่ามันเป็นเพลงอะไร "กูคิดถึงลูก กูก็เอามาเปิดฟังแก้เหงาไปยังงั้นแหละ" แกว่า เวลามีคนถาม

        ยามมีคอนเสิร์ต พี่สงบจะมีเพียงชุดเสื้อแขนสั้นยืดรัดรูปโชว์รอยสัก กางยีนส์ไม่เก่าแต่ขาดตามสมัยนิยม รองเท้าคอนเวิร์สสีแดงแปร๊ด ท่าเต้นจิ๊กโก๋ยกไหล่หงายมือในยุค '80 ยังคงเป็นท่าประจำของแก เหล่าวัยรุ่นที่เต้นอยู่รอบๆต่างก็เต้นตามกันเป็นที่สนุกสนาน

        ท่วงทำนองอันเร้าในในเพลงเร็ว หรือเพลงรักหวานแบบร็อคๆซึ้ง พี่สงบจะอินไปกับบทเพลงทุกครั้งที่ฟัง แกตีความหมายในเพลง ได้ตามที่ผู้แต่งต้องการได้อย่างเข้าถึงในอารมณ์ แต่แกเคยบอกว่า "กูไม่ค่อยชอบฟังแนวจิ๊กโก๋อกหัก มันทำให้กูคิดถึงเมียเก่าทุกที"

        ช่วงนี้พี่สงบได้งานในกรุงเทพฯ ทั้งเข้าและเย็น จะได้ยินเพลงร็อคดังลั่นออกมาจากบ้านพี่สงบเสมอ กว่าจะเงียบเสียงได้ ก็ปาเข้าไปเกือบสี่ทุ่ม ยังดีที่บ้านติดกันข้างๆเป็นสองผ้วเมียวันรุ่น ปัญหาเรื่องเสียงรบกวนเลยไม่มี

        ทุกเช้าวันอาทิตย์ รถมอเตอร์ไซด์ชอปเปอร์คันเก่าของพี่สงบจะถูกเข็นออกมาล้างจนเอี่ยม แกจะเป็นคนรักษารถเป็นอย่างดี แม้ว่ามันจะเป็นรถมือสองที่อายุไม่ต่ำกว่ายี่สิบปี แต่สภาพนั้นยังสมบูรณ์ มีอยู่ครั้งหนึ่งที่แกได้หยุดยาวในช่วงปีใหม่ แกปลุกป้าบุญแต่เช้า เพื่อพากันไปเที่ยวทะเลถึงบางแสน

        เช้าวันนี้ก็เช่นกัน พี่สงบขะมักขเม้นล้างรถคันเดียวทุกซอกทุกมุมเหมือนเดิม ส่วนป้าบุญก็ง่วนอยู่ในครัว ทำผัดกะเพราเนื้อของโปรดของพี่สงบ กลิ่นพริกกระเทียมคลุ้งไปทั่วบริเวณบ้าน ชวนน้ำลายสอ พี่สงบเร่งล้างรถให้เสร็จทันเวลาที่ของโปรดยังร้อนอยู่ แกหันไปสูดกลิ่นผัดกะเพราพลางกลืนน้ำลายลงคอ

        ระหว่างที่สองแม่ลูกนั่งกินมื้อเช้ากันอยู่

        "แม่อย่างฟังเพลงของเสก โลโซ ว่ะ"

        "อะไรนะแม่" พี่สงบสำลัก เอามือป้องข้าวที่เต็มปาก แต่ไม่ทัน!

        "เออ ก็แม่อยากฟังนี่หว่า เอ็งไปหาซื้อให้หน่อยนะ"

        "แม่จะฟังโลโซเนี่ยนะ..เฮ้อ" พี่สงบส่ายหัว กอบข้าวที่หล่นไว้ขอบจาน

        นะ ซื้อให้แม่หน่อย แม่อยากฟัง"

        "อืม..ได้ครับ เดี๋ยวจะหาดูให้" ป้าบุญอมยิ้มแล้วกินข้าวต่อ

        ส่วนพี่สงบนั่งอมยิ้มส่ายหัวกับคุณแม่ขาร็อคเช่นกัน แกถอนหายใจ

        ผ่านไปสองอาทิตย์..

        พรุ่งนี้จะเป็นเกิดป้าบุญ พี่สงบนั่งมองกล่องของขวัญ ที่ห่อด้วยกระดาษลายสวยสีแดงสด ภายในบรรจุแว่นสายตากรอบทอง 18 เค ที่แกแอบไปตัดไว้ หวังจะให้แม่เปลี่ยนกับอันเก่า ที่เลนส์บิ่นเมื่อคราวแม่แกทำตกในห้องน้ำเมื่สองเดือนก่อน

        คืนนั้นพี่สงบแอบเอากล่องของขวัญไปใส่ไว้ในตู้กับข้าว กะว่าจะให้ป้าบุญประหลาดใจตอนตื่นขึ้นมาทำอาหารในตอนเช้า

        เสียงไซเรนดังขึ้นเมื่อตอนตีห้า พาร่างแน่นิ่งของป้าบุญซึ่งลื่นล้มหมดสติในห้องน้ำ ยังดีที่พี่สงบตื่นขึ้นมาพบเข้า แล้วเรียกรถพยาบาลมารับไปโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้ๆ

        สามวันที่ป้าบุญนอนรักษาตัวอยู่ในห้อง I.C.U. พี่สงบจำต้องหยุดงานเพื่อดูแลอย่างใกล้ชิด เงินเก็บที่มีอยู่ถูกใช้เป็นค่ารักษา พี่สงบยอมจ่ายเต็มที่ จนป้าบุญเริ่มรู้สึกตัวและออกมาพักในห้องผู้ป่วยพิเศษได้ สีหน้าป้าบุญเริ่มเป็นปกติ

        ช่วงหัวค่ำ หลังจากที่พี่สงบกลับไปบ้าน เพื่ออาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นครั้งแรกในช่วงสามวัน

        เตียงที่ว่างเปล่า ทำให้พี่สงบต้องย้อนไปดูหลายเลขห้องใหม่อีกครั้ง

        "มันก็ถูกห้องนี่หว่า" แกบ่น แล้วหันไปมองเตียงที่ว่างเปล่า

        มือแกเริ่มซึมเหงื่อ ใจเต้นไม่เป็นจังหวะ

        "ไม่เป็นไรน่า แม่ดีขึ้นแล้วนี่" แกคิดในใจ แล้วรีบเดินจ้ำไปยังกลุ่มพยาบาลที่ยืนคุยกันอยู่ตรงหน้าลิฟท์

        เพียงไม่กี่ก้าว "แม่เอ็งเสียแล้ว เมื่อกี้นี้เอง" ไม่ใช่เสียงพยาบาล แกจำได้ว่าเป็นเสียงของป้าน้อยเพื่อนสนิทของป้าบุญ

        พี่สงบหยุดกึก หันหลังไปทางต้นเสียงความรู้สึกวูบที่หน้า ขาสั่น ใจเต้นไม่จังหวะ

        "แม่เอ็งเสียแล้ว" ป้าน้อยย้ำด้วยเสียงที่สั่น น้ำตาคลอ ไหลซ้ำรอยคราบน้ำตาสายเก่าเป็นทาง

        "ทำไม" พี่สงบทรุดตัวก้มหน้านั่งยองๆลงตรงนั้น น้ำตาหยดลงบนพื้น

        ป้าน้อยเข้ามาปลอบ พร้อมกับยื่นถุงผ้าเก่าๆในพี่สงบ

        "นี่เป็นเงินที่แม่เอ็งเก็บไว้สองหมื่นสี่ แม่เอ็งให้เอาไปจ่ายค่ารักษา"

        "และนี่ แม่เอ็งฝากข้าซื้อเมื่อกี้ ก่อนที่ข้าจะมาถึง" ป้าน้อยยื่นซีดีที่ยังไม่ได้แกะห่อ

        "มันบอกว่าอยากฟัง ข้าเลยซื้อมาให้มัน" พี่สงบรับแผ่นซีดีไว้

        "โลโซ" น้ำตาพี่สงบไหลพลาก หยดใส่แผ่นซีดีเต็มไปหมด แกนั่งมอง มือที่ถือแผ่นซีดีนั้นสั่นเทา

        พี่สงบเข้าใจแล้วว่า ทำไม่แม่ ถึงอยากฟังซีดีชุดนี้...เพลง"แม่ (Mother)" ที่อยู่ในรายชื่อบนปกหลัง

        แกกอดซีดีแผ่นนั้นแน่น เสียงโฮของลูกผู้ชายดังลั่นโรงพยาบาล...

        บัดนี้ เสียงเพลงร๊อคที่เคยดังกระหึ่มบ้านพี่สงบ เงียบเสียงลง จะมีก็แต่เสียงเบาๆของเพลง"แม่" และภาพพี่สงบนั่งกอดกล่องของขวัญที่ยังไม่แกะอยูในบ้าน


จุลชีพ   โจ๋

๒๙ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๔

ป.ล. เค้าโครงเรื่องมาจากเรื่องจริงของพี่ชายคนหนึ่ง...ขอไว้อาลัยแด่ดวงวิญญาณคุณแม่ที่จากไป..

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น